Home » 5 อันดับเครื่องฟอกอากาศ [อัพเดท 2023]

5 อันดับเครื่องฟอกอากาศ [อัพเดท 2023]

5 อันดับเครื่องฟอกอากาศ [อัพเดท 2023]

ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในประเทศไทยเป็นปัญหาที่รุนแรงและต้องรับมืออย่างจริงจัง ฝุ่น PM2.5 คืออนุภาคที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ซึ่งเล็กพอที่จะสามารถเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจและสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ รวมถึงการเกิดโรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจ และการเกิดมะเร็ง

หนึ่งในวิธีการที่สามารถช่วยลดปริมาณฝุ่น PM2.5 ในอากาศที่เราหายใจเข้าไปคือการใช้เครื่องฟอกอากาศ เครื่องฟอกอากาศทำงานโดยการดูดอากาศเข้าไปแล้วผ่านผ่านฟิลเตอร์ที่สามารถดักจับอนุภาค PM2.5 ได้ ทำให้อากาศที่ปล่อยออกมามีคุณภาพดีขึ้น

การใช้เครื่องฟอกอากาศในบ้านหรือที่ทำงานสามารถช่วยลดปริมาณฝุ่น PM2.5 ที่เราหายใจเข้าไป ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับฝุ่น PM2.5 ได้ นอกจากนี้ เครื่องฟอกอากาศยังสามารถช่วยลดปริมาณของสารก่อภูมิแพ้ และสารก่อการระคายเคืองอื่นๆ ที่อาจมีในอากาศ

การมีเครื่องฟอกอากาศเป็นส่วนหนึ่งของวิธีการจัดการกับปัญหาฝุ่น PM2.5 ในไทย วันนี้ทาง อันดับ.com ได้จัดอันดับเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพและคนซื้อใช้มากที่สุดมาให้ 5 อันดับ ไปเลือกใช้กันได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบรุ่นใหม่ รุ่นเล็กให้ได้ดูกันเลยครับ

1. Xiaomi Air Purifier 4 PRO CADR 500m³/h 

รูปจาก Xiaomi

Xiaomi Air Purifier 4 PRO CADR 500m³/h เป็นเครื่องฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยคุณสมบัติที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพในการฟอกอากาศ มีข้อดีและคุณสมบัติดังนี้

  1. การควบคุมอัจฉริยะ: สามารถควบคุมผ่านแอป Mi Home หรือ Xiaomi Home App และ AI voice ทำให้คุณสามารถควบคุมเครื่องฟอกอากาศได้ทุกที่ทุกเวลา
  2. การฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพ: มีระบบฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถฟอกอากาศได้ถึง 8330 ลิตรต่อนาที และมีพื้นที่ครอบคลุมที่มีประสิทธิภาพระหว่าง 35-60 ตารางเมตร
  3. การตรวจจับคุณภาพอากาศ: มีเซนเซอร์ PM2.5/PM10 ที่สามารถตรวจจับอนุภาคที่มีขนาดใหญ่ เช่น ฝุ่นละออง และอนุภาคที่มีขนาดเล็ก เช่น ควัน ทำให้การฟอกอากาศเป็นไปอย่างมีเป้าหมายและมีประสิทธิภาพ
  4. การฟอกอากาศที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: มีโหมด Night Mode ที่จะลดระดับเสียงและปิดแสงบนจอ OLED ทำให้การฟอกอากาศเป็นไปอย่างเงียบสงบและไม่รบกวนการนอนหลับ
  5. การฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพ: มีระบบฟอกอากาศ 3 ใน 1 ซึ่งประกอบด้วย ฟิลเตอร์หลัก ฟิลเตอร์ความสูงของ Xiaomi และฟิลเตอร์ถ่านที่มีคุณภาพสูง ทำให้สามารถฟอกอากาศได้มากถึง 99.97% ของอนุภาคขนาด 0.3 ไมครอน

สเปคของ Xiaomi Air Purifier 4 PRO CADR 500m³/h

  • พื้นที่ครอบคลุมที่มีประสิทธิภาพ: 35-60 ตารางเมตร
  • ปริมาณการฟอกอากาศ: 8330 ลิตรต่อนาที
  • CADR: 500m³/h
  • ระบบฟอกอากาศ: 3 ใน 1 (ฟิลเตอร์หลัก, ฟิลเตอร์ความสูงของ Xiaomi, ฟิลเตอร์ถ่านที่มีคุณภาพสูง)
  • เซนเซอร์: PM2.5/PM10
  • โหมดการทำงาน: Night Mode
  • การควบคุม: ผ่านแอป Mi Home หรือ Xiaomi Home App และ AI voice
  • การแจ้งเตือนการเปลี่ยนฟิลเตอร์: มีระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อฟิลเตอร์ต้องการเปลี่ยน
  • อายุการใช้งานของฟิลเตอร์: 6-12 เดือน
  • จอแสดงผล: OLED display แสดงข้อมูลคุณภาพอากาศภายในอาคารแบบเรียลไทม์ และแถบไฟที่มีรหัสสี

ราคา ณ วันที่ลงบทความ 1,2000 – 13,000 บาท

ลด 40% เหลือ 7,XXX ที่ ที่ Xiaomi Lazmall เลย


2. DYSON Pure Cool รุ่น TP00 PCOOL WH/SV

รูปจาก Dyson

เครื่องฟอกอากาศ DYSON Pure Cool TP00 มาพร้อมกับดีไซน์ที่ทันสมัยและเรียบง่าย ทำให้เหมาะสมกับการตกแต่งภายในบ้านในสไตล์ที่หลากหลาย ดีไซน์ที่ไม่มีใบพัดทำให้มันดูสวยงามและปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็ก ๆ หรือสัตว์เลี้ยง อีกทั้งยังช่วยให้การทำความสะอาดง่ายขึ้น เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาในการถอดและทำความสะอาดใบพัด นอกจากนี้ยังมีรีโมทคอนโทรลที่สามารถติดไว้บนเครื่องด้วยแม่เหล็ก ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการสูญหาย

เครื่องฟอกอากาศ DYSON Pure Cool TP00 มีขนาดที่เหมาะสมสำหรับการวางในห้องที่มีพื้นที่จำกัด และมีรูปร่างที่เรียบร้อยและทันสมัย ทำให้เหมาะสมกับการตกแต่งภายในบ้านในสไตล์ที่หลากหลาย แม้ราคาจะสูงไปบ้างแต่ก็ถือว่าแลกมากกับความทันสมัยและสวยงาม อีกทั้งประสิทธิภาพในการกรองอากาศอีก้ดวยก็ยังดีอีกด้วย

  1. ฟอกอากาศและระบายความร้อน: มันทำงานเป็นทั้งพัดลมและเครื่องฟอกอากาศ สามารถใช้เพื่อระบายความร้อนในห้องหรือฟอกอากาศ
  2. เซ็นเซอร์อัจฉริยะ: มีเซ็นเซอร์ที่สามารถตรวจจับสิ่งปนเปื้อนในอากาศและปรับการทำงานของเครื่องให้เหมาะสม
  3. ฟอกอากาศทั้งห้อง: ด้วยการออกแบบที่เฉพาะเจาะจง มันสามารถส่งอากาศที่ถูกฟอกไปทั่วห้องได้
  4. การควบคุมที่สะดวก: สามารถควบคุมผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ทำให้คุณสามารถปรับการทำงานของเครื่องได้จากที่ใดที่หนึ่ง
  5. การทำงานที่เงียบ: มันถูกออกแบบมาเพื่อทำงานอย่างเงียบ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องนอนหรือสถานที่ที่ต้องการความเงียบ
  6. การรับรอง HEPA: มีฟิลเตอร์ HEPA ที่สามารถจับสิ่งปนเปื้อนขนาดเล็ก ๆ ได้ถึง 99.95%
  7. การควบคุมด้วยเสียง: สามารถควบคุมด้วยเสียงผ่าน Alexa ทำให้คุณสามารถควบคุมการทำงานของเครื่องได้โดยไม่ต้องยกมือ
  8. การแสดงผลการฟอกอากาศ: มีจอ LCD ที่แสดงผลการฟอกอากาศและระดับสิ่งปนเปื้อนในอากาศ ทำให้คุณสามารถตรวจสอบคุณภาพอากาศในห้องของคุณได้ตลอดเวลา
  9. การทำงานอัตโนมัติ: โหมด Auto ทำให้เครื่องสามารถปรับการทำงานของตัวเองตามระดับสิ่งปนเปื้อนในอากาศ
  10. การควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน: คุณสามารถตั้งค่าไทม์เมอร์ ตรวจสอบคุณภาพอากาศ และตั้งค่าโหมดการทำงานต่าง ๆ ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนของคุณ

ราคา ณ วันที่ลงบทความ 14,000 – 15,000 บาท

สามารถเข้าไปสั่งซื้อได้ที่ Power Buy Lazmall เลย


3. PHILIPS Air Purifier AC0820/20

รูปจาก Philips

PHILIPS Air Purifier AC0820/20 เป็นเครื่องฟอกอากาศที่มีการออกแบบที่สวยงาม ขนาดกะทัดรัด ราคาไม่สูง และมีคุณสมบัติในการกรองอากาศที่ดี ดังนี้:

  1. ฟอกอากาศอย่างรวดเร็ว: สามารถฟอกอากาศในห้องขนาด 20 ตารางเมตรภายในเวลาน้อยกว่า 16 นาที
  2. การฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพ: มีอัตราการส่งออกอากาศสะอาด (CADR) ที่ 190 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง และสามารถฟอกอากาศในห้องขนาดสูงสุด 49 ตารางเมตร
  3. การกรองอนุภาคขนาดเล็ก: มีฟิลเตอร์ HEPA และ pre-filter ที่สามารถจับอนุภาคขนาดเล็กถึง 99.5% ซึ่งรวมถึง PM2.5, แบคทีเรีย, ฝุ่น, และสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ
  4. การฟอกอากาศที่ปลอดภัย: สามารถจับแอโรโซลที่อาจมีไวรัสทางเดินหายใจ และได้รับการทดสอบโดยอิสระว่าสามารถลบไวรัสและแอโรโซลจากอากาศได้ถึง 99.9%
  5. เซ็นเซอร์อัจฉริยะ: สามารถตรวจจับอนุภาคขนาดเล็กในอากาศ 1000 ครั้งต่อวินาที และสามารถปรับความเร็วของเครื่องให้เหมาะสมกับคุณภาพอากาศในบ้านของคุณ
  6. โหมดการทำงานที่เงียบ: ในโหมด Sleep, ไฟแสดงผลจะสว่างลดลง และเครื่องจะทำงานอย่างเงียบเพื่อให้คุณได้รับอากาศที่สะอาดในขณะที่คุณนอนหลับ
  7. การใช้พลังงานที่ประหยัด: ด้วยการออกแบบที่ประหยัดพลังงาน เครื่องฟอกอากาศนี้ใช้พลังงานสูงสุดเพียง 20 วัตต์ ซึ่งเทียบเท่ากับหลอดไฟมาตรฐาน
  8. การแสดงผลคุณภาพอากาศ: มีจอแสดงผลที่แสดงระดับสิ่งปนเปื้อนและ PM2.5 ในอากาศแบบเรียลไทม์ ทำให้คุณสามารถตรวจสอบคุณภาพอากาศในห้องของคุณได้ตลอดเวลา
  9. โหมดการทำงานอัตโนมัติและระดับความเร็วที่สามารถปรับได้: คุณสามารถใช้งานเครื่องในโหมดอัตโนมัติหรือเลือกระดับความเร็ว 2 ระดับ: Sleep และ Turbo ทำให้คุณสามารถควบคุมการไหลของอากาศและเสียงได้อย่างเต็มที่

ราคา ณ วันที่ลงบทความ 4,000 – 5,000 บาท

สามารถเข้าไปสั่งซื้อได้ที่ Philips Lazmall เลย


4. Coway (Storm) AP-1516D

รูปจาก Coway

เป็นที่น่าจะทราบว่า Coway ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตเครื่องฟอกอากาศอันดับ 1 ในเกาหลี และรุ่นสตรอมนี้ยังมีส่วนหนึ่งในการยืนยันสถานะนั้น โดยได้รับการพิสูจน์แล้วจากผู้ใช้งานในเกาหลีใต้และมาเลเซีย ด้วยระบบที่เน้นไปที่การ Subscription หรือเหมือนการเช่ารายเดือน แต่เราจะได้รับการบำรุงรักษาตลอดการใช้งาน ทำให้ไม่เกิดความยุ่งยากในกรณีการเสียหาย หรือเปลี่ยนไส้กรอง

Coway รุ่นสตรอม (Storm) AP-1516D เป็นที่น่าจะทราบว่า Coway ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตเครื่องฟอกอากาศอันดับ 1 ในเกาหลี และรุ่นสตรอมนี้ยังมีส่วนหนึ่งในการยืนยันสถานะนั้น โดยได้รับการพิสูจน์แล้วจากผู้ใช้งานในเกาหลีใต้และมาเลเซียเป็นหนึ่งในเครื่องฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมสูงมาก ๆ ในตลาดในขณะนี้ ด้วยระบบการใช้งานแบบ Subscription ซึ่งอยู่ที่ 790 บาทต่อเดือน คุณจะได้เครื่องฟอกอากาศระบบหมุนเวียนอากาศ 3 รูปแบบ ที่มีระบบควบคุมการทำงานแบบอัตโนมัติ ทำให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบาย แถมยังมีไฟแสดงสถานะคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ พร้อมการเข้าบำรุงรักษา ติดตั้งฟรี รับประกันอะไหล่ฟรี ทำความสะเอียดและเปลี่ยนไส้กรองให้ฟรี ทุก ๆ 4 เดือน

รุ่นสตรอมนี้ออกแบบมาให้ครอบคลุมพื้นที่สูงสุดถึง 49.5 ตรม. ซึ่งสามารถดักฝุ่นที่มองไม่เห็น และฟอกอากาศภายในบ้านให้สะอาดอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ใกล้ๆ, ไกลๆ หรือพื้นที่กว้างๆ ที่ต้องการดักกรองฝุ่น เครื่องยังมีระบบการกรอง 4 ขั้นตอน ที่สามารถขจัดมลพิษได้ถึง 99.9% และมีความละเอียดการกรองสูงถึง 0.02 ไมครอน

ด้วยขนาด 41.0 x 24.0 x 76.5 ซม. และน้ำหนัก 12 kg รุ่นสตรอมนี้ทำให้คุณสามารถวางและใช้งานในพื้นที่ที่คุณต้องการได้อย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้น มันยังมีอัตราการใช้ไฟที่เพียง 35W เท่านั้น ทำให้คุณสามารถประหยัดพลังงานได้อีกด้วย

ราคา ณ วันที่ลงบทความ 790 บาท

สามารถเข้าไปสั่งซื้อได้ที่ Coway Lazmall เลย


5. Blueair DustMagnet 5440i

รูปจาก Blueair

Blueair DustMagnet 5440i เป็นเครื่องกรองอากาศรุ่นใหญ่กรองอากาศได้ทั้งบ้าน ผลิตภัณฑ์ที่มีการออกแบบมาจากประเทศสวีเดน ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณสามารถสัมผัสกับความสะอาดและสดชื่นของอากาศในบ้านของคุณได้ทุกวัน โดยเฉพาะสำหรับพื้นที่ที่มีขนาดระหว่าง 33 ถึง 55 ตร.ม.

เครื่องฟอกอากาศ DustMagnet 5440i มีขนาดที่เหมาะสมและน้ำหนักเพียง 6.8 กก. ทำให้คุณสามารถวางเครื่องไว้ในทุกพื้นที่ของบ้านได้ ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือแม้กระทั่งห้องครัว ด้วยกำลังไฟที่ต่ำเพียง 7-42 วัตต์ ทำให้คุณสามารถใช้งานได้ตลอดวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น

สิ่งที่ทำให้ DustMagnet 5440i โดดเด่นคือความสามารถในการดักจับฝุ่นในอากาศได้ถึง 99.97% ด้วย Pre-filter ที่มีประจุซึ่งดึงดูดฝุ่นเหมือนแม่เหล็ก ทำให้คุณใช้เวลาปัดฝุ่นและดูดฝุ่นในบ้านน้อยลง นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีการกรอง HEPASilentTM อันเป็นเอกลักษณ์ของ Blueair ที่ไม่เพียงแต่ฆ่าเชื้อโรค แต่ยังดักจับอนุภาคละเอียดได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ถึง 0.1 ไมครอน

อีกหนึ่งคุณสมบัติที่น่าสนใจคือการออกแบบที่สวยงามและทันสมัย ทำให้เครื่องฟอกอากาศ DustMagnet 5440i สามารถกลมกลืนไปกับเฟอร์นิเจอร์ในบ้านของคุณได้ดี และไม่ต้องซ่อนตัวอยู่ในมุมห้องแบบเดิม

ระบบช่องลมออกแบบ 2 ทิศทาง ปล่อยอากาศบริสุทธิ์ในมุมที่แม่นยำ สร้างเอฟเฟกต์กระแสลมวนในห้อง ออกแบบมาเพื่อจัดการกลุ่มอนุภาคฝุ่นในอากาศ และช่องลมเข้าแบบ 2 ทิศทาง ดึงดูดกลุ่มฝุ่นอย่างแรงก่อนที่จะตกลงบนพื้นและพื้นผิว

Blueair DustMagnet 5440i มีระบบเตือนเปลี่ยนไส้กรอง และไส้กรองสามารถใช้งานได้นานถึง 1 ปี หรือ 8,760 ชม. และมีการรับประกันมอเตอร์ 5 ปี (ไม่รวมไส้กรอง)

ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดนี้ Blueair DustMagnet 5440i เป็นเครื่องฟอกอากาศที่คุณควรมีอยู่ในบ้าน เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นและชีวิตที่มีคุณภาพมากขึ้น.

ราคา ณ วันที่ลงบทความ 20,000 – 30,000 บาท

สามารถเข้าไปสั่งซื้อได้ที่ Blueair Lazmall เลย